การขายสินค้าหรือการให้บริการที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี
โดยทั่วไปแล้วหลังจากที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจำท่องเอาไว้ในใจเสมอว่า “ทุกครั้งที่ขายสินค้าหรือให้บริการ เราจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้า และต้องออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าเสมอ แม้ว่าลูกค้าจะไม่ต้องการก็ตาม” ในทางภาษีคำว่า ” ขาย ” หมายความว่า จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่ จะเห็นว่าจากความหมายของขายมันดูโหดร้ายกับผู้ประกอบการมาก ยกตัวอย่างเช่น บริษัท A ในช่วงวิกฤตโควิด ได้บริจาคผ้าปากปิดโดยไม่ได้รับเงินตอบแทน ถ้ายึดนิยามคำว่าขาย จะถือว่าบริษัทได้จ่ายโอนสินค้าให้กับบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ให้ถือเป็น “ขาย” ซึ่งจะต้องมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกรมสรรพากร ซึ่งคงจะไม่มีคนอยากเป็นคนดีแน่ๆ ถ้าจะต้องเสียภาษีเพิ่มอีก กรมสรรพากรจึงได้กำหนดลักษณะ และเงื่อนไข ค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณมูลค่าของฐานภาษี โดยออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) เพื่อให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งแอดมินได้รวบรวมข้อที่เกี่ยวข้องกับบริษัททั่วไปหรือที่เจอบ่อยเอาไว้ 14 ข้อ สำหรับท่านที่อยากอ่านฉบับเต็มเข้าไปดูได้ที่นี่ >> https://www.rd.go.th/3399.html
by KKN การบัญชี
ช่วงใกล้สิ้นปี บริษัทต่างๆ ก็มักจะมีการแจกของขวัญให้กับลูกค้าของบริษัท วันนี้แอดมินจึงมาสรุปภาษีที่เกี่ยวข้องกับการแจกของขวัญให้กับลูกค้า
by KKN การบัญชี
มีผู้ประกอบการท่านหนึ่งสอบถามเข้ามาว่า ตอนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเข้าใจผิดคิดว่าจดบริษัทจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย แต่ตั้งแต่เปิดบริษัทมา 2 ปียังไม่เคยมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีเลย ตอนนี้รู้สึกว่าเป็นภาระมาก เพราะบางครั้งก็ไม่สามารถเก็บ VAT จากลูกค้าได้จะต้องควักเงินจ่ายเองและทุกเดือนจะต้องยืนแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตอนนี้อยากออกจาก VAT มากทำอย่างไรได้บ้าง VAT เป็นเรื่องที่คนใจอยากออก แต่ไม่มีคนนอกที่ไหนอยากจะเข้าเลย ดังนั้นก่อนจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องคิดให้ดีก่อนเพราะจดแล้วออกลำบากมาก คุณจะต้องมียอดขายต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีติดต่อกันมากกว่า 3 ปีถึงจะสามารถยื่นเรื่องขอออกจากระบบภาษีมูลค่าเพิ่มได้ หรืออีกวิธีที่ไม่ต้องรอ 3 ปีคือการเลิกกิจการแล้วจดทะเบียนใหม่ครับ
by KKN การบัญชี
มีหลายสาขา อยากยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันต้องทำอย่างไร
ต้องเข้าเงื่อนไดดังต่อไปนี้ ถึงจะสามารถยื่นรวมได้(ภ.พ.02) ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสถานประกอบการหลายแห่ง ยื่นคำขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน (ภ.พ.02) ต่ออธิบดีกรมสรรพากร เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแล้ว จึงจะยื่นแบบรวมกันได้ตั้งแต่เดือนภาษีที่อธิบดีกำหนดเป็นต้นไป ให้ผู้ประกอบการแสดงรายการภาษีของสถานประกอบการทุกแห่งรวมกันไว้ใน ภ.พ.30 ที่ยื่นพร้อมทั้งแนบรายละเอียดภาษีขายและภาษีซื้อของสถานประกอบการแต่ละแห่งตามแบบที่กรมสรรพากรกำหนดประกอบการยื่นแบบฯ ตัวอย่างแบบคำขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน(ภ.พ.02)
by KKN การบัญชี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม นักพัฒนาแอปพลิเคชั่น
ที่มาhttps://www.facebook.com/Suthep.Pongpitak/posts/3392901600760792/
by KKN การบัญชี
1.ภาษีเงินได้นิติบุคคล ค่าใช้จ่ายนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินคนละ 2,000 บาทในแต่ละคราว 2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อของขวัญแจกเป็นภาษีซื้อต้องห้าม *ถ้าให้ดีอย่าลืมแนบนามบัตรของกิจการ และถ่ายรูปเป็นหลักฐานด้วยนะครับ สาเหตุที่ในบัญชีธนาคารของบริษัทไม่ตรงกับการบันทึกบัญชี 1.เจ้าของบริษัทไม่มีเงินจริงตามที่จดทะเบียนบริษัท (ไม่ตรงตั้งแต่เริ่มกิจการเลย T ^ T)2.ใช้เงินบริษัทกับส่วนตัวปนกันมั่วไปหมด เจ้าของควรจะกำหนดเงินเดือนตัวเองขึ้นและไม่ใช้เงินบริษัทในเรื่องส่วนตัว3.ลูกค้าโอนเงินค่าสินค้าหรือบริการ เข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าของแทนเข้าบัญชีบริษัท4.ใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่าใช้จ่ายแทนบริษัท เพื่อความสะดวกและง่าย
by KKN การบัญชี
ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไรภาษีชนิดหนึ่งที่เก็บจากผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าหรือบริการในอัตรา 7% หลักของภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักง่ายๆ : ใครก็ตามที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีจะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม** แสดงว่าถ้ารายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี เรามีสิทธิ์เลือกว่าจะจดหรือไม่จดก็ได้** มีบางกิจการที่รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีก็ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่นสถานศึกษา, ผู้สอบบัญชี, ขายสินค้าเกษตร เราสามารถดูรายชื่อทั้งหมดได้ที่ http://www.rd.go.th/publish/7052.0.html ข้อดีและข้อเสียของการจดVAT Tip ในการเลือกจดVAT กรณีรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ 1.กิจการมีความสามารถผลักภาระภาษีขายไปให้แก่ลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด? 2.กิจการมีภาษีซื้อที่สามารถขอคืนได้มากน้อยเพียงใด? สรุปการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม Note: 1. ถ้าภาษีขาย > ภาษีซื้อ เราจะต้องนำส่งส่วนต่างให้สรรพากรเพิ่ม2. ถ้าภาษีซื้อ > ภาษีขาย เราสามารถขอคืนส่วนต่างจากรมสรรพากรได้ หรือ จะยกไปใช้ในเดือนถัดไปก็ได้ ภาษีซื้อที่ไม่มีสิทธิ์นำมาขอคืน (ภาษีซื้อต้องห้าม) 1.ไม่มีใบกำกับภาษีหรือไม่อาจแสดงใบกำกับภาษีได้ว่ามีการชำระภาษีซื้อ 2.ใบกำกับภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ 3.ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ 4.ภาษีซื้อที่เกิดจากการจ่ายค่ารับรอง 5.ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซึ่งออกโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี 6.อื่นตามประกาศของอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น •ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อเช่า หรือจ่ายค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์นั่งและรถยนโดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง […]
by KKN การบัญชี
ทำไมภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อโดนสรรพากรตรวจย้อนหลัง ต้องร้องขอชีวิตกัน
ตัวอย่าง: นายเอ ประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ในปี 2559 มีรายได้จากการขาย 2.8 ล้านบาท แต่นายเอไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะคิดว่ายังไงสรรพากรก็จับไม่ได้ เมื่อโดนสรรพากรจับได้จะเป็นอย่างไร สรุปภาษีที่ต้องเสียตามกฏหมาย 1.รายได้ส่วนที่เกิน 1.8 ล้านบาท เราจะต้องเสีย VAT 7% ให้กับสรรพากร (2,800,000 – 1,800,000) x 7% = 70,000 บาท2.สรรพากรบอกว่า สรรพากรเป็นคนตรวจเจอเองจะต้องโดนปรับ 2 เท่าของ VAT 70,000 x 2 = 140,000 บาท3.สรรพากรบอกว่า จ่าย VAT ล่าช้าทำให้เสียประโยชน์ขอคิดดอกเบี้ยหน่อย 70,000 x ดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน (จนกว่าจะมาชำระภาษี)
by KKN การบัญชี