การทำลายสต็อก ไม่ใช่อยากจะทำลาย ก็ทำลายเลยได้
ทำไมต้องทำลายสินค้า 1.สินค้าที่ถูกทำลายไม่ถือเป็นการขาย ดังนั้นจะไม่ต้องเสียภาษีขาย 2.เมื่อทำลายสินค้า นิติบุคคลมีสิทธินำต้นทุนของสินค้าที่ถูกทำลายมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ทำลายสินค้า * แต่การทำลายสินค้าจะต้องถูกต้องตามที่สรรพากรกำหนดนะ พิจารณาสินค้าที่ต้องการทำลาย สินค้าที่ต้องการทำลายเป็นสินค้าที่เน่าเสียได้ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น สามารถทำลายได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งสรรพากร สินค้าที่ต้องการทำลายเป็นสินค้าสามารถเก็บรักษาได้ รอปริมาณเยอะค่อยทำลายทีเดียว เมื่อจะทำลายสินค้าจะต้องแจ้งการทำลายให้สรรพากรพื้นที่หรือสรรพากรจังหวัดทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันทำลายสินค้า ขั้นตอนการทำลายสินค้าที่ถูกต้อง 1.ตรวจสอบสินค้าว่าเสียหายจริงหรือไม่ตามระเบียบของบริษัท ส่งให้ผู้มีอำนาจอนุมัติว่าเสียตามที่ระเบียบบริษัทกำหนด 2.กรณีที่สินค้าได้รับคืนมาจากลูกค้า บริษัทจะต้องเก็บหลักฐานการรับคืน เอกสารดังกล่าวจะต้องระบบ วันที่รับสินค้า สาเหตุการรับคืน ชนิดของสินค้า และปริมาณ เลขที่อ้างอิงการสั่งซื้อสินค้าชนิดนั้น 3.1.เมื่อได้รับอนุมัติให้ทำลาย จะมีผู้เข้าร่วมการทำลายสินค้าอย่างน้อยดังนี้ ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายบัญชี ฝ่ายขายหรือฝ่ายตรวจสอบ (ถ้ามี) พร้อมผู้ตรวจสอบบัญชี เมื่อทำลายเสร็จ ให้ทุกคนลงลายมือชื่อเป็นพยานในการทำลายสินค้า สรรพากรทำ Clicklist เกี่ยวกับการทำลายสินค้า
by KKN การบัญชี
สินค้าขาด /สินค้าเกินจากรายงานสินค้าคงเหลือ
ผ่านช่วงนับสต็อกประจำปีกันมาแล้ว หลายบริษัทเจอปัญหาสินค้าที่ตรวจนับได้จริงไม่ตรงกับรายงานสินค้าคงเหลือ จะต้องทำยังไงกันดี 1.สินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ สินค้าขาดจากรายงานสินค้า ทางสรรพากรถือเป็นขายสินค้าจะต้องเสียภาษีขายด้วยราคาตลาดของสินค้า ณ วันที่ตรวจพบ จะต้องเสียเบี้ยปรับเป็น 2 เท่าของเงินภาษีที่ต้องเสีย บริษัทสามารถนำ “รายงานตรวจนับสินค้า” ใช้เป็นหลักฐานในการตัดจำนวนสินค้าที่ขาดจากรายงานสินค้าคงเหลือ เพื่อปรับยอดคงเหลือให้ตรงกับความเป็นจริง 2.สินค้าเกินจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (สินค้าเกินก็ผิด T ^ T ) บริษัทสามารถนำ “รายงานตรวจนับสินค้า” ใช้เป็นหลักฐานในการเพิ่มจำนวนสินค้าที่เกินจากรายงานสินค้าคงเหลือ เพื่อปรับยอดคงเหลือให้ตรงกับความเป็นจริง สำหรับสินค้าทีเกินเมื่อขายก็จะต้องเสียภาษีขายด้วย
by KKN การบัญชี
ค่าปรับกรณีไม่จัดทำสต็อกสินค้า
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่จัดทำรายงานตามมาตรา 87 ซึ่งประกอบไปด้วย รายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ รายงานสินค้าและวัตถุดิบ เฉพาะผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้า ตามมาตรา 90/3 ระบุไว้ว่าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ Note: โดยปกติเจ้าหน้าที่จะปรับเพียง 5,000 บาท และจะสั่งให้ผู้ประกอบการไปจัดทำสต็อกย้อนหลังให้ถูกต้อง (บอกเลยทำย้อนหลังยากโครตๆๆๆๆๆๆๆ)
by KKN การบัญชี