เช่าซื้อ VS ลีสซิ่ง กับประเด็นทางภาษี
เช่าซื้อ : คือการซื้อรถยนต์แบบผ่อนชำระ เมื่อผ่อนชำระหนี้ครบตามสัญญารถยนต์จะเป็นของบริษัททันที ลีสซิ่ง : คือการเช่ารถยนต์ โดยในสัญญาเช่าจะมีออฟชั่นพิเศษสามารถซื้อรถยนต์ได้ในราคาพิเศษ (ผู้เช่าจะตัดสินใจซื้อ หรือไม่ซื้อก็ได้) ในโลกของภาษีแบ่งรถยนต์ออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ รถยนต์เชิงพาณิชย์ เช่น รถกระบะ รถบรรทุก พวกนี้เวลาซื้อขอคืนภาษีซื้อได้ และไม่มีเพดานเรื่องของการหักค่าใช้จ่าย รถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคน เช่น รถเก๋ง รถสปอร์ต รถเอสยูวี รถตู้ที่มีที่นั่งไม่เกิน10ที่นั่ง เวลาซื้อรถยนต์ไม่สามารถขอคืนภาษีซื้อได้ นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเพดานค่าใช้จ่าย สามารถหักค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าต้นทุนเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น โดยหักค่าเสื่อมราคาต่อปีสูงสุดได้ปีละ 200,000 บาท โดยจะต้องแบ่งหักเป็นค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 5 ปี หมายความว่าถ้าซื้อรถยนต์แบบเช่าซื้อราคา 3 ล้านบาท ก็สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายสูงสุดได้แค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นเวลาที่เราซื้อรถหรูที่ราคาเกิน 1 ล้านบาท เราก็จะรู้สึกขาดทุนที่ไม่สามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงเกิดการซื้อรถยนต์แบบลีสซิ่งขึ้นมา ลีสซิ่งถือเป็นการเช่า กรมสรรพากรได้กำหนดเพดานค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งให้สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ไม่เกิน 1,200 บาทต่อวัน (หรือ 36,000 […]
by KKN การบัญชี